ละหมาดดุฮา: ความสำคัญ วิธีปฏิบัติ เวลา และหลักฐานจากอัลกุรอานและซุนนะฮ์

ละหมาดดุฮา: ความสำคัญ วิธีปฏิบัติ เวลา และหลักฐานจากอัลกุรอานและซุนนะฮ์ post thumbnail image

ละหมาดดุฮา เป็นหนึ่งในนาฟีละฮ์ (ละหมาดสุนนะฮ์) ที่มีความประเสริฐยิ่ง ซึ่งท่านนบี ﷺ ได้แนะนำให้เราปฏิบัติ เพราะเป็นการแสดงความกตัญญูต่ออัลลอฮ์ที่ประทานร่างกายและสุขภาพให้แก่เรา หลายคนอาจมองข้ามละหมาดนี้ แต่ความจริงแล้วผลบุญของมันนั้นยิ่งใหญ่

ละหมาดดุฮาคืออะไร?

ละหมาดดุฮาคือการละหมาดสุนนะฮ์ที่ทำในช่วงเวลากลางวันหลังจากดวงอาทิตย์ขึ้นและสูงขึ้นเล็กน้อย (ประมาณ 15 นาทีหลังจากพระอาทิตย์ขึ้น) และเวลานี้จะสิ้นสุดก่อนเวลาละหมาดซุฮ์ริเล็กน้อย

ละหมาดดุฮาเริ่มมีเมื่อไหร่?

ละหมาดดุฮาได้ถูกกำหนดขึ้นในสมัยท่านนบี ﷺ และท่านได้ปฏิบัติจริงในหลายโอกาส เช่น ในวัน พิชิตมักกะฮ์ (ฟัตฮุ มักกะฮ์) ท่านนบี ﷺ ได้ละหมาดดุฮา 8 ร็อกอัตที่บ้านของท่านอุมมุ ฮานิอ์ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮา

หลักฐานจากหะดีษ
ท่านอุมมุ ฮานิอ์ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮาเล่าว่า:

“ท่านนบี ﷺ ในวันพิชิตมักกะฮ์ ได้ละหมาด 8 ร็อกอัตเป็นละหมาดดุฮา”
(บันทึกโดยอัลบุคอรีและมุสลิม)

เวลาละหมาดดุฮา

เวลาเริ่มตั้งแต่หลังพระอาทิตย์ขึ้นและสูงขึ้นเล็กน้อย (ประมาณ 15 นาทีหลังจากพระอาทิตย์ขึ้น) จนถึงก่อนเที่ยงเล็กน้อย

เวลาที่ดีที่สุด คือช่วงที่แดดร้อนจัดเล็กน้อย หรือที่เรียกว่า เวลาที่ลูกอูฐร้อน (ترمض الفصال) เพราะมีหะดีษว่า:

“ละหมาดของบรรดาผู้กลับใจ (อัลเอาวาบีน) คือในเวลาที่ลูกอูฐรู้สึกร้อนจากแผ่นดิน”
(บันทึกโดยมุสลิม)

วิธีละหมาดและจำนวนร็อกอัต

  • น้อยที่สุด: 2 ร็อกอัต (เป็นการขอบคุณอัลลอฮ์แทนการให้ซอดาเกาะฮ์ในทุกข้อต่อของร่างกาย)
  • มากที่สุด: ตามทัศนะนักวิชาการส่วนใหญ่ไม่มีจำนวนที่จำกัด แต่ที่นิยมคือ 8 ร็อกอัต
  • วิธีละหมาด: ละหมาดเป็น 2 ร็อกอัต แล้วให้สลาม (จะละหมาดเพิ่มอีกกี่ชุดก็ทำแบบนี้)

หลักฐานจากหะดีษ
ท่านนบี ﷺ กล่าวว่า:

“ในร่างกายของทุกคนมีข้อต่อ 360 ข้อ ทุกข้อมีสิทธิ์ต้องทำซอดาเกาะฮ์… และละหมาด 2 ร็อกอัตในเวลาเช้าก็เพียงพอแล้ว”
(บันทึกโดยมุสลิม)

ความประเสริฐและผลบุญของละหมาดดุฮา

1. เป็นการซอดาเกาะฮ์แทนทุกข้อต่อของร่างกาย

เพราะทุกข้อต่อของเราต้องทำซอดาเกาะฮ์ในแต่ละวัน และละหมาดดุฮา 2 ร็อกอัตจะทดแทนทั้งหมด

2. เป็นละหมาดของอัลเอาวาบีน (ผู้กลับใจ)

ท่านนบี ﷺ กล่าวว่า:

“ละหมาดของบรรดาผู้กลับใจ (อัลเอาวาบีน) คือเวลาที่ลูกอูฐร้อน”
(มุสลิม)

3. ทำให้ได้รับการอภัยโทษและเป็นสาเหตุสู่สวรรค์

หะดีษของท่านอบูฮุร็อยเราะฮ์ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮ์ กล่าวว่า:

“เพื่อนสนิทของฉัน (ท่านนบี ﷺ) ได้สั่งเสียฉัน 3 อย่าง: ถือศีลอด 3 วันทุกเดือน, ละหมาดดุฮา 2 ร็อกอัต, และละหมาดวิติร ก่อนนอน”
(บันทึกโดยอัลบุคอรีและมุสลิม)

หลักฐานจากอัลกุรอาน

นักวิชาการบางท่าน เช่น อิบนุ อับบาส รอฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า ละหมาดดุฮามีหลักฐานในอัลกุรอาน ถึงแม้จะไม่ได้ระบุชื่อชัดเจน แต่มีการบ่งบอกอย่างละเอียดในอายะห์จากซูเราะฮ์ อันนูร:

อัลลอฮ์ตรัสว่า:
﴿ فِي بُيُوتٍ أَذِنَ اللَّهُ أَنْ تُرْفَعَ وَيُذْكَرَ فِيهَا اسْمُهُ يُسَبِّحُ لَهُ فِيهَا بِالْغُدُوِّ وَالآصَالِ ﴾
(ซูเราะฮ์ อันนูร 36)

อธิบาย:
คำว่า “الغدو” หมายถึงเวลาเช้า หลังจากพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว ซึ่งครอบคลุมเวลาละหมาดดุฮา และ “الآصال” คือเวลาช่วงเย็น

อิบนุ อับบาส ถูกถามเกี่ยวกับละหมาดดุฮา ท่านตอบว่า:
“มันมีอยู่ในคัมภีร์ของอัลลอฮ์ และไม่มีใครเข้าใจมันได้นอกจากผู้ที่ขุดลึก”
แล้วท่านอ่านอายะห์นี้

แม้ในอัลกุรอานจะไม่ได้กล่าวถึงละหมาดดุฮาโดยตรง แต่มีอายะฮ์ที่ยกเกียรติของเวลานี้ เช่น:

  • ﴿وَالشَّمْسِ وَضُحَاهَا﴾ (อัชชัมส์: 1)
  • ﴿وَالضُّحَى﴾ (อัชชัรหฺ: 1)
    นักตัฟซีรกล่าวว่า อายะฮ์เหล่านี้เป็นการชี้ถึงความประเสริฐของเวลานี้

ทัศนะของอุละมาอ์

  • ฮะนะฟีย์: เป็นมุสตะฮับ (สิ่งที่น่าทำ) ที่ดีที่สุดคือ 4 ร็อกอัต
  • มาลิกีย์: เป็นสุนนะฮ์ที่ยืนยันเมื่อมีเหตุ เช่น มีเวลาว่างหรือต้องการแสดงการขอบคุณ
  • ชาฟิอีย์และฮัมบะลีย์: เป็นสุนนะฮ์มุอักกะดะฮ์ (ยืนยันแล้ว) อย่างน้อย 2 ร็อกอัต ที่ดีที่สุดคือ 8 ร็อกอัต
  • อิมาม อันนะวาวี กล่าวว่า: “ความเห็นนี้เป็นทัศนะของนักฟิกฮ์ส่วนใหญ่ในยุคหลัง”
  • ในมัซฮับฮัมบาลี มีรายงานหนึ่งที่เลือกโดยนักวิชาการอย่าง อบู อัลวาฟา อิบนุอะกีล, อบู คอตตอบ, และอัลอาญุรี (ตามที่อิบนุกุดามะห์กล่าวไว้ในหนังสืออัลมุฆนี)
  • และยังเป็นความเห็นของซอฮาบะฮ์หลายท่านและตาบิอีน

อัลฮาฟิซ อิบนุ ญะรีร อัฏฏอบะรี ถึงกับกล่าวว่า:
“หลักฐานเกี่ยวกับการละหมาดดุฮามีมากมายจนถึงขั้นมุตะวาติร (รายงานจำนวนมากจนปฏิเสธไม่ได้)”

ตัวอย่างหะดีษ:
ท่านอาอิชะฮ์ รอฎิยัลลอฮุอันฮา กล่าวว่า:
“ท่านรอซูลุลลอฮ์ ﷺ มักละหมาดดุฮาสี่ร็อกอัต และเพิ่มมากกว่านั้นตามที่อัลลอฮ์ทรงประสงค์”
(บันทึกโดยมุสลิม)

บทสรุป

ละหมาดดุฮาเป็นละหมาดสุนนะฮ์ที่ยิ่งใหญ่ มีผลบุญมหาศาล เป็นการขอบคุณอัลลอฮ์สำหรับร่างกายและชีวิต และเป็นแบบอย่างของท่านนบี ﷺ ที่เราควรยึดตาม อย่าลืมให้ละหมาดนี้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน เพราะอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เราเข้าใกล้สวรรค์ของอัลลอฮ์

อ้างอิง

  1. อัลกุรอาน: สูเราะฮ์ อัชชัมส์ (1), สูเราะฮ์ อัชชัรหฺ (1)
  2. ซอเฮี๊ยะฮ์อัลบุคอรี: หะดีษอุมมุ ฮานิอ์ (1176)
  3. ซอเฮี๊ยะฮ์มุสลิม: หะดีษการสั่งเสีย 3 ประการ (721), หะดีษ 2 ร็อกอัตแทนซอดาเกาะฮ์ (720), หะดีษอัลเอาวาบีน (748)
  4. ซุนันอัตติรมิซีย์: บาบละหมาดดุฮา (475)
  5. อัลมะฆนีย์ – อิบนุ กุดามะฮ์
  6. อัลมะจฺมูอฺ – อันนะวะวีย์
  7. อัลมุดาวนะฮ์ อัลกุบรอ

ทิ้งคำตอบไว้